๖๙๒. เบญจมราชาลัยสมาคมในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับมูลนิธิเบญจมราชาลัย ลงพื้นที่ ครั้งที่ ๒ มอบอาหารกลางวัน ให้กำลังใจ ชาวชุมชนคลองเตย ร่วมฝ่าวิกฤตโควัด – ๑๙ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๓๐๐ ชุด

วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นางกรแก้ว วิริยะวัฒนา นายกสมาคม เบญจมราชาลัยสมาคม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับมูลนิธิเบญจมราชาลัย พร้อมด้วยคณะกรรมการ มอบอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้นำชุมชนชุมชนคลองเตย นำไปมอบให้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-๑๙ (COVID-๑๙) เพื่อเป็นการดูแลช่วยเหลือ สร้างขวัญ ให้กำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด – ๑๙ ครั้งที่ ๒ จำนวน ๓๐๐ ชุด ณ ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

รายงานภาพข่าว : เบญจมราชาลัยสมาคมในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ



๖๙๑. เบญจมราชาลัยสมาคมในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับมูลนิธิเบญจมราชาลัย มอบอาหารกลางวัน ให้กำลังใจ ชาวชุมชนคลองเตย ร่วมฝ่าวิกฤตโควัด – ๑๙ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๒๐๐ ชุด

วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นางกรแก้ว วิริยะวัฒนา นายกสมาคม เบญจมราชาลัยสมาคม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ร่วมกับมูลนิธิเบญจมราชาลัย พร้อมด้วยคณะกรรมการ ร่วมใจมอบอาหารกลางวัน ให้กับผู้นำชุมชนคลองเตย นำไปมอบให้ชาวชุมชนคลองเตยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – ๑๙ ครั้งที่ ๑ จำนวน ๒๐๐ ชุด ณ ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

นางกรแก้ว วิริยะวัฒนา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - ๑๙ ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในชุมชนคลองเตย ยังคงน่าเป็นห่วง เบญจมราชาลัยสมาคม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ กับมูลนิธิเบญจมราชาลัย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความห่วงใย และส่งมอบอาหารกลางวัน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้พ่อแม่พี่น้องในเขตชุมชนคลองเตย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในการได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของของเชื้อโควิด - ๑๙ นอกจากนี้ ขอส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เสียสละ อดทน ทำงานกันอย่างหนักช่วยเหลือผู้ป่วย ในการสกัดการลุกลามของโรคที่กระจายไปเป็นวงกว้างในเขตชุมชนให้คลี่คลายได้โดยเร็ว


รายงานภาพข่าว : องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ


๖๙๐. สมาคมซอนต้าประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ มอบกล่องยังชีพและเวชภัณฑ์ด้านการแพทย์ สนับสนุนภารกิจสู้โควิด - ๑๙ ของกรุงเทพมหานคร ให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล ประชาชนในชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์ มูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ บาท

วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔ วลา ๑๔.๐๐ น. ดร.สร้อยเพชร เรศานนท์ ผู้อำนวยการเขต และนายกสมาคมซอนต้า ประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระพรมราชินูปถัมภ์ และ ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ประธานที่ปรึกษาพร้อมด้วยคณะปรึกษา อดีตนายก และกรรมการสมาคมซอนต้า ประเทศไทย ประกอบด้วย คุณรัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์ คุณพวงทอง อานันทนะสุวงศ์ คุณมนวิภา ประชัญคดี ดร. ภัทรพร สันตธาดาพร คุณศิรินภา สว่างล้ำ วิทยะฐานกรณ์ และ คุณรำไพวรรณ์ หอมไกรลาศ รวมจำนวน ๘ ท่าน เดินทางไปมอบกล่องยังชีพและเวชภัณฑ์ด้านการแพทย์ มูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อสนับสนุนภารกิจของกรุงเทพมหานครในช่วง (โควิด - ๑๘) สำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล ประชาชนในชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย กล่องยังชีพสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาล จำนวน ๓๐๐ กล่อง ชุดกันสารเคมี ๓ M ๔๕๐๐ จำนวน ๒๐๐ ตัว แว่นตานิรภัยใส ๓ M จำนวน ๒๐๐ คู่ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ กล่องละ ๕๐ ชิ้น จำนวน ๒๐๐ กล่อง และถุงป้องกันเท้า จำนวน ๒๐๐ คู่ โดยมี พญ.สุภาพร กรลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ร่วมรับมอบ ณ บริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
ดร.สร้อยเพชร เรศานนท์ กล่าวว่าสมาคมซอนต้า ประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระพรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี ประธานที่ปรึกษา และอดีตนายกสมาคมฯ พร้อมด้วยกรรมการในสมาคมฯ ได้ตระหนักถึงการปฏิบัติงานของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีภารกิจในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด - ๑๘) หลากหลายด้าน เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - ๑๙ ที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องและแพร่กระจายออกเป็นวงกว้าง สมาคม จึงมอบกล่องยังชีพและเวชภัณฑ์ด้านการแพทย์ซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อีกทั้งเพื่อเป็นการขอบคุณและเป็นกำลังใจสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานคร
ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมัยที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๔)ประธานที่ปรึกษาสมาคมซอนต้า ประเทศไทย กล่าวว่านอกจากนี้ แต่ละสโมสร และบุคคล ทุกท่านทุกสโมสร ได้รวบรวมกัน บริจาคเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาล บ้านพักฉุกเฉิน และราชทัณฑ์ เพื่อแบ่งเบาภาระช่วงวิกฤต COVID - ๑๙ ดิฉัน ขออนุโมทนาสาธุบุญกับทุกท่านด้วย ในโอกาสนี้ขออนุญาตกล่าวในนามสมาคมซอนต้า ประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย ที่ปรึกษาและ และอดีตนายกสมาคมซอนต้า ประเทศไทย กรรมการในสมาคมฯ และทุกสโมสร ขอส่งความห่วงใยร่วมเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนร่วมกันผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้เร็วที่สุด

รายงานภาพข่าว : สมาคมซอนต้าประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๘๙. สมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหน้ากากอนามัย ทางการแพทย์ ๑๐,๐๐๐ ชิ้น พร้อม แจลแอลกอฮอล์ จำนวน ๔ ลัง ให้นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ส่งมอบต่อให้ประชาชนที่ขาดแคลนและยากจน เพื่อเป็นกำลังใจ ก้าว

วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นางอุมารินทร์ เลิศสหพันธ์ นายกสมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ นางกมนรัตน์ สิมมาคำ วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นำคณะกรรมการสมาคมฯ และเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางไปมอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์จำนวน ๑๐,๐๐๐ ชิ้น พร้อม แจลแอลกอฮอล์ จำนวน ๔ ลัง ให้กับ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ยากไร้ และเดือนร้อน จากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID ๑๙ ในอำเภอต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นกำลังใจ ตามแนวความคิด อัตลักษณ์ไทย วัฒนธรรมปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน และเราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤต COVID ๑๙ ไปด้วยกัน จากนั้น สมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชนพร้อมด้วยประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้เนื่องในวันวิสาขะบูชาและวันต้นไม้แห่งชาติ ณ วัดห้วยสีทน ตำบลโพนทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์

รายงานภาพ/ข่าว : สมาคมสตรีอาเซียน-กาฬสินธุ์ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๘๘. สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมเป็นกำลังใจ มอบอาหารและเครื่องดื่ม ให้นายกเหล่ากาชาด ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยจากการติดเชื้อ โควิด - ๑๙ ในพื้นที่จังหวัดนครราชส

เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ดร.นรินทิพย์ กาญจนศิริ นายกสมาคม สตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อม คณะกรรมการสมาคม เดินทางไปมอบอาหารและเครื่องดื่ม ให้นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมอบส่งให้เป็นกำลังใจ ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด - ๑๙ อย่าเข้มแข็ง โดยมอบอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม ประกอบด้วย ผัดหมี่โคราช ๑๒๐ กล่อง นม ขนม น้ำ รวม ๑๒๐ ชุด ข้าวเหนียวไก่ทอด ๑๒๐ ชุด ขนม กระหรี่ปัฟ ๑๒๐ ชุด น้ำส้มคั้นสดใหญ่ ๑๒๐ ขวด และน้ำดื่ม จำนวน ๒๒๔ ขวด ณ ครัวสนาม สำนักงานเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา

ดร.นรินทิพย์ กาญจนศิริ กล่าวว่าสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติภารกิจของท่านนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ด้วยการส่งมอบอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ปลอดภัย เพื่อเป็นการขอขอบคุณและเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ได้เสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

รายงานภาพข่าว : สตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดนครราชสีมา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๘๗. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ เดินหน้าต่อเนื่อง มอบเงินอีก ๑ แสนบาท ให้โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี สู้ภัยวิกฤตโควิด-๑๙ โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมเป็นสักขีพยาน

วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๓๐ น.นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายทะนะเทพ วิบูล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานีและคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปมอบเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับแพทย์หญิงฤทัย วรรธนวินิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี และในโอกาสนี้ สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ได้รับเกียรติจาก นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.จังหวัดอุดรธานี ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบให้โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี ในการสนับสนุนการดำเนินงานของบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์จำเป็นที่ใช้รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-๑๙ เพื่อให้พี่น้องประชาชน ร่วมกันก้าวผ่านวิกฤติโควิด-๑๙ นี้ได้อย่างปลอดภัย ณ ตึกอำนวยการชั้น ๗ โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดอุดรธานี
นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-๑๙ ถือว่ามีการแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และคณะแพทย์ ยังต้องมีการตรวจหาเชิงรุกในชุมชนต่าง ๆ และจากการแพร่ระบาดระลอกนี้สังเกตพบว่ามีผู้ป่วยที่อาการหนักเพิ่มมากขึ้นกว่ารอบก่อน ซึ่งสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย ที่ปรึกษาสมาคม และกรรมการในสมาคมฯ ได้ช่วยกันสนับสนุน ทั้งด้านงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร และกำลังใจ อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีกำลังใจในการทำงานที่จะดูแลคนไข้ต่อไป
นางกอบแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า ขออนุญาตกล่าวถึงความรู้สึกจริงๆ ถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชน จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID-๑๙ จากการรายงานทางการแพทย์มีคนไข้เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ในหลายๆพื้นที่ แพทย์และพยาบาลทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อทุกคน ดังนั้นจึงอยากให้ทุกท่านได้ดูแลสุขภาพตนเอง ด้วยการอยู่บ้านให้มากที่สุดในช่วงนี้ อย่าลืมสวมหน้ากาก เมื่อมีความจำเป็นออกจากบ้านมาทำงาน หรือปฏิบัติภารกิจต่างๆ หลี่กเลี่ยงอย่าไปในพื้นที่แออัด ระมัดระวังตัว ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนจะรับประทานอาหารหรือก่อนสัมผัสใบหน้า ซึ่งจะทำให้ทุกท่านปลอดภัย พ้นจากการติดเชื้อ เมื่อไม่ป่วยก็ไม่ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ดิฉันเชื่อว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทุกท่านสามารถทำได้เพื่อตัวท่านเองและครอบครัว สิ่งเหล่านี้ยังทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีกำลังใจในการทำงานที่จะดูแลคนไข้ต่อไป

รายงานข่าว : สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เรียบเรียงข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ



๖๘๖. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการฯ บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดีรังสิต

วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๓๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการสภาสตรีแห่งชาติฯ ประกอบด้วย ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรัศรินทร์ ลัดใหม่กุลวัฒน์ กรรมการบริหาร นางจงชนก พัชรประภากร กรรมการบริหาร ธัญพักตร์ สุรศักดิ์นิธิกุล อุปนายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดีรังสิต

ภาพ/ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๘๕. ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการฯ บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๕

วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการสภาสตรีแห่งชาติฯ ประกอบด้วย ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ดร.สมจิตร ศิริเสนา เลขาธิการ นางณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล รองประธานคณะกรรมการบริหาร นางธัญพักตร์ สุรศักดิ์นิธิกุล อุปนายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดร้อยเอ็ด บันทึกเทปรายการพิเศษ ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๕
ภาพ/ข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๖๘๔. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชนพช. จับมือ มรภ.กำแพงเพชร ลงนามบันทึกข้อตกลง พัฒนานวัตกรรมทอผ้าด้วยใยจากต้นกล้วยไข่ ยกระดับคุณค่าภูมิปัญญา ชู บูรณาการ "สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน"

วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ วงษ์บุญมาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” และนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน โดยมี นายเชาวลิต แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และ นางนวลจันทร์ แสงอุทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพง ให้การต้อนรับ และมีผู้ร่วมงานประกอบด้วย พล.อ.สุรพล ตาปนานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก นายปริญญา ฤกษ์หร่าย นางณิชเบญญา จันทนจุลกะ ฤกษ์หน่าย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำแพงเพชร ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ดร.สมจิตร ศิริเสนา เลขาธิการสภาสตรีแห่งชาติฯ ดร.อรุณศรี จงเจียมจิตต์ กรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ นางเยาวมาลย์ วัชระเรืองศรี กรรมการอำนวยการสภาสตรีแห่งชาติฯ นางนันทิยา วงศ์วานิชย์ กรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ และคณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ณ พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชร เฉลิมพระเกียรติ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

ในการนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวขอบคุณ นายเชาวลิตแสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรที่เห็นความสำคัญและเป็นกำลังสนับสนุนขับเคลื่อนโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน" ซึ่งนับเป็นระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์แห่งศิลปาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาผ้าไทยให้ทรงคุณค่า จนเกิดรูปธรรมของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพสกนิกรชาวไทย รวมทั้งกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้สนองแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระทัยตั้งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานสมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อสืบสานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการผ้าไทยที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้มีพระดำริพระราชทานแก่วงการผ้าไทยว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่อให้ทุกเพศทุกวัย สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน รวมถึงพระองค์ได้เสด็จเปิดงาน OTOP City ๒๐๒๐ ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่พสกนิกร จึงได้พระราชทานแบบลายผ้าแก่ช่างทอผ้า ชื่อลาย“ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ในการสื่อความหมายถึง การส่งมอบความรักและความสุขให้แก่ชาวไทย และพระราชทานพระอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้เป็นต้นแบบ พัฒนาต่อยอดไปสู่เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ตามเอกลักษณ์ประจำถิ่น ให้เกิดความทันสมัย เพื่อให้รายได้ กลับเข้าสู่ชุมชน เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค เสมือนเป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจแก่พี่น้องประชาชนคนไทยอย่างทั่วถึง รวมถึงรัฐบาลนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นความสำคัญของการสวมใส่ผ้าไทยออกเป็นมติคณะรัฐมนติเห็นชอบในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ให้ถือมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย เป็นนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทย ตามความเหมาะสมอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ วัน เพื่อสร้างค่านิยมและการตระหนัก รับรู้ รักษามรดก อัตลักษณ์ภูมิปัญญาของไทย การลงนามในครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีอาชีพในการทอผ้า ทั้งเป็นอาชีพเสริม และอาชีพหลักได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง นับได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จากการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวทำให้กลุ่มทอผ้าจังหวัดกำแพงเพชร จำนวน ๓๔ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับมอบลายผ้าพระราชทาน จำนวน ๒๑ กลุ่ม สามารถเพิ่มยอดจำหน่าย ยกระดับคุณภาพชีวิต

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวขอบคุณคณะสภาสตรีแห่งชาติ และกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนขับเคลื่อนโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ ในแผ่นดิน" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงาน พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา ในการพลิกฟื้นผ้าไทย จากสิ่งทอของชาวบ้านที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์ที่สวมใส่ให้คนทั่วโลกยอมรับถึงคุณค่าและความงดงามอันประเมินค่ามิได้ ทำให้สตรีไทยเกิดอาชีพเสริม จนปัจจุบันกลายเป็นอาชีพหลัก โดยการสืบสานต่อยอดในพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ที่พระราชทานพระราชดำรัสในงานวันสตรีไทย เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ มีใจความสำคัญว่า พระองค์จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย สืบสานมายังสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระเมตตาในการที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมสิ่งที่สำคัญที่สุดของความเป็นไทย เรื่องหนึ่งคือ เรื่องของวัฒนธรรมการแต่งกาย สนับสนุน ส่งเสริม รื้อฟื้น ชีวิตผ้าไทย โดยพระองค์ท่านมองเห็นถึงจุดอ่อนของวงการผ้าไทย คือ ผ้าทอแบบเดิม ไม่มีความโดดเด่นตามยุคตามสมัย พระองค์ทรงได้แนะนำการประยุกต์พัฒนาลวดลายให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้วงการทอผ้าไทย มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ด้วยลมหายใจของช่างทอ ซึ่งผ้าทุกผืนเกิดจากการถักทอด้วยลมหายใจของสตรี หากคนไทยพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ อย่างน้อย หากคนไทย ๓๕ ล้านคน ร่วมใจกันสวมใส่ผ้าไทย ซื้อผ้าเพียงคนละ ๑๐ เมตร รวม ๓๕๐ ล้านเมตร ๆละ ๓๐๐ บาท เราจะช่วยให้เกิดเงินหมุนเวียนกลับคืนสู่พี่น้องประชาชนทันทีมากกว่า ๑ แสนล้านบาท ก่อให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง อย่างยั่งยืน

ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ วงษ์บุญมาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร กล่าวว่า ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางด้านบริการวิชาการ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การวิจัย เพื่อให้เกิดการพัฒนา การแปรรูป รวมถึงการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ในการสนับสนุนให้การรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยของรัฐบาลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวขอบคุณทุกท่านและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าไทย รณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองจนเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะรองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ วงษ์บุญมาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ที่ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่นให้มีนวัตกรรม คิดค้นศึกษาวิจัย ด้วยการนำกาบกล้วยไข่มารีดเนื้อเยื้อออก โดยใช้ช้อนขูดเป็นเส้นใย นำเส้นใยกล้วยไข่ปั่นรวมกับใยฝ้าย เพื่อนำไปถักทอผ้า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าทอให้มีความหลากหลาย และโดดเด่น แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ประจำจังหวัด ก่อให้เกิดวงจรธุรกิจมหาภาคอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาการย้อมเส้นฝ้ายจากผงศิลาแลง ซึ่งเดิมจังหวัดกำแพงเพชรที่ผ่านมาไม่มีผ้าพื้นเมืองประจำจังหวัด จึงได้ทำการคิดค้นกระบวนการย้อมผ้าจากผงศิลาแลง เพื่อให้ได้สีจากธรรมชาติ เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ เกิดกระตุ้นให้ชุมชนเห็นคุณค่าของการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และร่วมชมนิทรรศการหัตถกรรมผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีของเด่นทั้ง ๑๑ อำเภอของจังหวัดกำแพงเพชร

สำหรับ การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการรักษา สืบสาน และต่อยอดภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ทำให้ผ้าทอไทยทุกผืนเกิดจากการถักทอด้วยลมหายใจของพี่น้องประชาชน เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจครัวเรือน และเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไปยังลูกหลานเพื่อรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ จึงขอเชิญชวนทุกท่านสวมใส่ผ้าไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนให้ยั่งยืนสืบไป

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ในแต่ละจุดโดยทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าเพื่อคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย พร้อมจัดบริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ใช้ทำความสะอาดและต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างเคร่งครัด

ขอบคุณภาพ/ข่าว : กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน
เรียบเรียงข้อมมูล : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

๖๘๓. “ดร.วันดี” ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ในฐานะซีอีโอ SPCG ได้รับเชิญจาก “ห้องสมุดมารวย” ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และแนวคิดการบริหารองค์กรที่ได้รับในคลิปซีรีย์ “หนึ่งในใจ” เนื่องในโอกาสที่ห้องสมุดมารวย ก้าวสู่ปีที่ ๑๗

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ในฐานะ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG หนึ่งในผู้บริหารที่ได้รับรางวัล Set Awards ปี ๒๕๖๓ และได้รับเชิญจาก “ห้องสมุดมารวย” ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เพื่อให้มาร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และแนวคิดการบริหารองค์กรที่ได้รับในคลิปซีรีย์ “หนึ่งในใจ” เนื่องในโอกาสที่ห้องสมุดมารวย ก้าวสู่ปีที่ ๑๗ โดยการมาร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ครั้งนี้ได้คัดเลือกหนังสือ ”A Passion For Success” ซึ่งเขียนโดย ดร. Kazuo Inamori ผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera Corporation ซึ่งเขียนโดย ดร. Kazuo Inamori ผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera Corporation ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้บุกเบิกพลังงานแสงอาทิตย์คนแรกๆ ของโลก และถือเป็นหนังสือที่ สร้างแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของ “เอสพีซีจี” เข้าสู่การเป็นผู้พัฒนาโซลาร์ฟาร์ม ๓๖ โครงการ กำลังการผลิต ๒๖๐ เมกะวัตต์ ในปัจจุบัน
สำหรับ Passion ในการทำธุรกิจผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ คือ อยากเห็นสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นในโลก และพลังงานธรรมชาติถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงให้กับพลังงานไทย ส่วนสาระสำคัญที่ได้รับจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ คือ ได้เรียนรู้หลักหลักสำคัญ ๓ ประการในการขับเคลื่นอตัวเราในการทำงาน คือ ๑. Ability ความสามารถในการทำงานและเชื่อมั่นว่าจะทำได้สำเร็จ ๒. Effort ความพยายาม และ ๓. Attitude ทัศนคติที่ดีในการทำงาน โดยหากทุกคนมี ๓ องค์ประกอบนี้ ไม่ว่าจะทำงานเล็กหรืองานใหญ่ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างแน่นอนอ่าน
ติดตามเพิ่มเติมที่ https://youtu.be/MYkxYAgi7yY

เรียบเรียงข้อมูล : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์