๓๙๐. สมาคมซอนต้าประเทศไทย องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มอบ เงิน และเครื่องช่วยหายใจแบบเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้สถาบันบำราศนราดูร และ มูลนิธิรามาธิบดี

วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๓ นางพวงทอง อานันทนะสุวงศ์ ผู้อำนวยการซอนต้าสากล เขต ๖ ภูมิภาค ๑๗ (สมาคมซอนต้าประเทศไทย) องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการ และสมาชิก อาทิ นางมนวิภา ประชัญคดี นางสาวมรกต โชติกุล นางสาวอินทิรา สวัสดิ์พาณิชย์ นางนภา สุขะมงคล นางสาวสุจิตรา หมวดพล นางไอริน สวัสดิ์พาณิชย์ นางรัตตินันท์ ชัยจิระไพศาล และนางธนพร ฟักเขียว ร่วมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่ สถาบันบำราศนราดูร โดยมี นพ. อภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร รับมอบ เพื่อใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-๑๙ และบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย เครื่องช่วยหายใจแบบเคลื่อนที่ได้ ( Mobile Ventilator) จำนวน ๔ เครื่อง มูลค่ารวม ๘๐๐,๐๐๐ บาท หน้ากากอนามัย มูลค่า ๒๐,๐๐๐ บาท และ มอบพุดดิ้งมะพร้าว ให้คุณหมอ นำไปแจกจ่ายกระจายให้บุคลากรทางการแพทย์ ต่อไป

จากกนั้นในวันเดียวกันนางพวงทอง อานันทนะสุวงศ์ ผู้อำนวยการซอนต้าสากล เขต ๖ ภูมิภาค ๑๗ (สมาคมซอนต้าประเทศไทย) องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำสมาชิก ได้แก่ นางธนพร ฟักเขียว นางนิภารัตน์ พิทักสิทธิ์เกษม นางญาณรักษ์ มานิธิคุณ นางญานิกา นนทสิทธิชัย นางสาวกุลชลี เสริมทวีทรัพย์ นางสุมาลี อุ่นพงศ์เจริญสุข และ นางดาวใจ ไพจิตร เดินทางไปมอบเงิน ๑๘๐,๐๐๐ บาท มอบหน้ากากอนามัย ๑,๐๐๐ ชิ้น แอลกอฮอล์เจลล้างมือ รวมมูลค่ากว่า ๔๐,๕๐๐ บาท ให้กับมูลนิธิรามาธิบดี เพื่อนำไปใช้ดูแลผู้ป่วย และทั้งนี้การร่วมกันมอบเงินดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ให้เป็นกองทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และเครื่องกระตุกหัวใจ โดยมี รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการมูลนิธิรามาธิบดี เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อไปยังบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ท่ามกลางภาวะการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙
นางพวงทอง อานันทนะสุวงศ์ กล่าวว่าด้วยจำนวนผู้ป่วยโควิด -๑๙ ที่ยังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หลายๆ โรงพยาบาลต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับผู้ป่วยในอนาคต ทั้งนี้ ตนเองในฐานะ ผู้อำนวยการซอนต้าสากล เขต ๖ ภูมิภาค ๑๗ (สมาคมซอนต้าประเทศไทย) องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับคณะกรรมการ และสมาชิกมีความเห็นพ้องกัน ในการร่วมกันบริจาคเงิน สมทบทุนทางการแพทย์ ซื้อ “เครื่องช่วยหายใจ” อุปกรณ์ช่วยชีวิต และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมอบเงิน เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ ต่อสู้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด - ๑๙เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๘๙. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รวมพลัง สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานี และสมาคมสตรีนักธุรกิจแห่งประเทศไทย อุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ มอบผ้าฝ้ายย้อมคราม ให้จังหวัด นำไปทำหน้ากากผ้า แจกประชาชน ในจังหวัด

วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น.นางกอบแก้ว คงน้อย สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานี และ พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา สมาคมสตรีนักธุรกิจแห่งประเทศไทย อุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกันมอบผ้าฝ้ายย้อมคราม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านนาข่า จังหวัดอุดรธานี มูลค่า ๔๐,๐๐๐ บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ให้กับจังหวัดอุดรธานี โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผุ้รับมอบผ้าฝ้ายย้อมครามดังกล่าว เพื่อนำไปทำหน้ากากอนามัยแจกให้ประชาชน และผู้ปฎิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด - ๑๙ ณ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๐.๐๐ น.นางกอบแก้ว คงน้อย สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ สมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุดรธานี และ พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา สมาคมสตรีนักธุรกิจแห่งประเทศไทย อุดรธานี องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกันมอบผ้าฝ้ายย้อมคราม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านนาข่า จังหวัดอุดรธานี มูลค่า ๔๐,๐๐๐ บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ให้กับจังหวัดอุดรธานี โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผุ้รับมอบผ้าฝ้ายย้อมครามดังกล่าว เพื่อนำไปทำหน้ากากอนามัยแจกให้ประชาชน และผู้ปฎิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด - ๑๙ ณ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๘๘.. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์และดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID –๑๙ ที่โรงพยาบาลนครปฐม

วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๓ นางสาวณัฎฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม และสมาชิก จำนวน ๘ ท่าน ร่วมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับ แพทย์หญิง ดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ppe (ชุดกาวน์รัดคลุมศรีษะ) เพื่อใช้ในการปฎิงานทางการแพทย์จำนวน 20 ชุด และ Alcohol 75 เปอร์เซ็นต์และ เจล Alcohol จำนวน 200 ลิตร พร้อมด้วย หน้ากาก face shield ป้องกันละอองฝอยเข้าตา จำนวน 150 ชิ้น ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อกระจายให้แก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่จากสถานการณ์ไวรัส Covid –๑๙ ณ โรงพยาบาลนครปฐม
นางสาวณัฎฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล กล่าวว่า สมาคมฯ ตระหนักและซาบซึ้งในความเสียสละทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างจริงใจ จึงได้ให้ความร่วมกับกรรมการและสมาชิก นำอุปกรณ์ท่งการแพทย์ มาสนันสนุนในครั้งนี้ และนอกจากนี้ สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับมาตรการที่ ดร.วันดี กุญชรอยู่คง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ แจ้งขอความร่วมมือ ให้องค์กรสมาชิกปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-๑๙ โดยเร็วที่สุด


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบิหารสภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๘๗. สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ นำคณะกรรมการพร้อมด้วยสมาชิก มอบเงิน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่จากสถานการณ์ไวรัส COVID -๑๙

วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๓ นางสาวณัฎฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะกรรมการสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม และสมาชิกมอบเงิน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับจังหวัดนครปฐม โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานรับมอบ ประกอบด้วย เงิน จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาทและ รับมอบชุดอุปกรณ์ป้องกัน (PPE) พีพีอี หรือ Personal Protective Equipment (ชุดกาวน์รัดคลุมศีรษะ หน้ากาก N๙๕ แว่นตา ถุงมือ) จำนวน ๓๐ ชุด และ หน้ากากผ้า จำนวน ๒๐๐ ชิ้น พร้อมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโควิดจำนวน ๑๐,๐๐๐ ลิตร พร้อมด้วยหน้ากาก face shield ป้องกันละอองฝอยฟุ้งเข้าตา จำนวน ๑๕๐ ชิ้น เพื่อให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำไปมอบ ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติหน้าที่จากสถานการณ์ไวรัส COVID- ๑๙ ณ ศาลากลางจังหวัดนครปฐม
นางสาวณัฎฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล กล่าวว่า สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม ซึ่งเป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะกรรมการพร้อมด้วยสมาชิก ตระหนักถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วน สำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อหากขาดซึ่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ก็มิอาจช่วยชีวิต รักษาชีวิตประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า COVID - ๑๙ ดังนั้นเพื่อแสดงความห่วงใย และร่วมเป็นกำลังใจ ให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดนครปฐม สมาคมฯจึงมอบชุดอุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วย ให้กับทางจังหวัดนครปฐม เพื่อใช้ป้องกันการติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ๒๐๑๙ ในกรณีเข้าไปตรวจดูคนไข้ที่ติดเชื้อ หรือผู้มีประวัติเสี่ยง ซึ่งต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน (PPE) ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโรค

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๘๖. วัดระฆังโฆสิตาราม จับมือกรมการพัฒนาชุมชน สภาสตรีแห่งชาติฯ ตั้งโรงทานทำอาหารถวายพระ บุคลากรทางการแพทย์และแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ ตาม พระบัญชาสมด็จพระสังฆราช

วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๓ พระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ได้จัดตั้งโรงทานคณะสงฆ์วัดระฆังโฆสิตาราม ตามดำริสมเด็จพระสังฆราช โดยร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำโดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และดารานักแสดงบทบู๊ “จาพนม” หรือ ทัชชกร ยีรัมย์ และภาคีเครือข่าย หลายหน่วยงานต่างๆ ร่วมจัดโรงทานทำอาหารถวายพระและส่งให้บุคคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนช่วยเหลือคนตกงาน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ถึง ๑๕ เมษายน ๒๕๖๓

ทั้งนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานงานกับวัดทั่วประเทศที่มีศักยภาพเพียงพอ จัดตั้งโรงทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ โดยให้คำนึงถึงความพร้อมของแต่ละวัด และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในชุมชน
นอกจากนั้น ให้ประสานงานร่วมกับหน่วยงาน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ที่ดำเนินการจัดตั้งโรงทานและการแจกจ่าย ให้เป็นไปตามหลักสุขอนามัย โดยไม่มีการจัดพิธีการ พิธีกรรม กิจกรรม หรือการบริหารจัดการใดๆ ที่มีบุคคลจำนวนมากมารวมตัวกัน รวมทั้งให้ปฏิบัติตามคำสั่ง มาตรการ และคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

๓๘๕. สภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน และชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน มอบหน้ากากอนามัยให้กับสภากาชาดไทย เพื่อใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ต่อสายธารแห่งการให้ ดังคำที่ว่า “กาชาดช่วยเรา เราช่วยกาชาด”

ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบดี พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯและผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนจากส่วนกลาง มอบหน้ากากอนามัยให้แก่สภากาชาดไทย จำนวน ๓๕,๐๐๐ ชิ้น โดยมี นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย และรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม ๓๐๐๓ ชั้น ๓ กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
“ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)”
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา และปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นจำเป็นที่ทุกภาคส่วนของสังคมไทยจะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน สำหรับในส่วนของการป้องกันโรคติดเชื้อดังกล่าว กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและกลุ่มอาชีพ ผลิตหน้ากากอนามัยทำจากผ้าที่สามารถใช้แล้วนำมาซักได้อีกเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๓ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๒๐ วัน ซึ่งจากข้อมูลการผลิต
โดย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้มือที่ไม่ได้ล้างสัมผัสใบหน้า แยกกินอาหารชุดของตัวเองไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน กินอาหารปลุกสุกใหม่ ออกกำลังกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการเข้าฝูงชน อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าเมื่ออยู่ในที่คนแออัด หลีกเลี่ยงสัมผัสผู้อื่น งดจับมือหรือสัมผัสสวมกอด ควรเว้นระยะห่างจากผู้อื่น ๑ – ๒ เมตร หากมีอาการไอ จาม ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง สังเกตอาการของตนเอง หากมีไข้สูง ๓๗.๕ องศาขึ้นไป มีอาการไอแห้ง หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบไปพบแพทย์ หรือโทร ๑๖๖๙
ข้อมูล ณ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๓ มีกลุ่มสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและกลุ่มอาชีพ ผลิตหน้ากากอนามัยทำจากผ้าที่ดำเนินการผลิตทั้งสิ้น ๔,๓๒๒ กลุ่ม/ราย จำหน่ายได้ทั้งสิ้น ๑,๖๕๓,๗๔ ชิ้น มีรายได้มากกว่า ๒๒ ล้านบาท นอกจากการผลิตเพื่อจำหน่ายดังกล่าวแล้ว กรมการพัฒนาชุมชน ยังได้ส่งเสริมให้กลุ่มฯ มีการผลิตเพื่อบริจาคแจกจ่ายให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่คิดมูลค่า เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในภาวะวิกฤต สำหรับการบริจาคหน้ากากอนามัยให้กับสภากาชาดไทยในวันนี้ กรมการพัฒนาชุมชนได้เชิญชวนและรับบริจาคมาจากผู้มีจิตอันเป็นกุศลจาก ทั่วประเทศ โดยมีจำนวนจังหวัดที่ร่วมบริจาคทั้งสิ้น ๗๖ จังหวัด ซึ่งหน้ากากอนามัยที่บริจาคให้กับสภากาชาดไทยในครั้งนี้สภากาชาดไทยจะได้นำไปใช้ในกิจการของสภากาชาดไทยในโอกาสต่อไป นับเป็นการต่อสายธารแห่งการให้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของสภากาชาดไทย ดังคำที่ว่า
“กาชาดช่วยเรา เราช่วยกาชาด”
ขอบคุณ ภาพ/ข่าว: กรมการพัฒนาชุมชน สถานีข่าว พช. CNS รายงาน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

๓๘๔. สตรีเมืองพญาแล รวมพลังกับ กรมการพัฒนาชุมชน สภาสตรีแห่งชาติฯ สืบสาน รณรงค์ใส่ผ้าไทย เชิดชูอัตลักษณ์ คุณค่าผ้าท้องถิ่น สร้างรายได้สู่ชุมชน

วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ (MOU) กับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ นางวันดี วุ่นซิ้ว นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด นางมัณฑนา สงวนวงศ์ชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดชัยภูมิ คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ และสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมลงนามความร่วมมือ โดยมี นางบุญยิ่ง เทศน์น้อย ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 13 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ๑ และพัฒนาการจังหวัดชัยภูมิ ร่วมเป็นพยาน โดยก่อนลงนามได้มีการฉายวีดิทัศน์โครงการ “สตรีอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยชัยภูมิ” และการแสดงชุด “ตำนานผ้าไหมชัยภูมิ” ปิดท้ายด้วยการชื่นชมความงามผ้าไทยของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยการเดินแฟชั่นโชว์ผ้าพื้นอัตลักษณ์และผ้าไหมจากทั้ง ๑๖ อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ โดยมีคณะกรรมการพัฒนาสตรีและผู้แทนจากทุกอำเภอร่วมเดินแบบเพื่อโชว์ความสวยงามของผ้าพื้นถิ่นของอำเภอและผ้าไหมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ รวมถึง “ผ้าไหมลายหมี่คั่นขอนารี” ซึ่งเป็นการผสมผสานลายหมี่คั่นโบราณเข้ากับลายหมี่ขอนารี เกิดเป็นลายผ้าที่สวยงามอันเป็นลายอัตลักษณ์ของจังหวัดชัยภูมิ มาจวบจนทุกวันนี้

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติฯ ได้ดำเนินงานในโครงการแรกเริ่ม คือ "โครงการตามรอยผ้าไทยลมหายใจแม่ของแผ่นดิน" จนมาถึงโครงการที่ ๒ คือ โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ที่ได้รณรงค์ให้ประชาชนคนไทยทั่งประเทศมาร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยทุกวัน เพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้มั่นคง รักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ต่อยอดภูมิปัญญาไปสู่ลูกหลานไทย

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ขอชื่นชมชาวจังหวัดชัยภูมิได้ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี จากที่ได้เห็นการมีศิลปวัฒนธรรมที่ยังคงรักษา สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ อาทิ การรำถวายเจ้าพ่อพญาแล รำสาวบ้านแต้ ด้วยการนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ประกอบกับความเข้มแข็งขององค์กรสตรี ซึ่งสำหรับการรณรงค์ส่งเสริมผ้าไทยที่จังหวัดชัยภูมินั้น จะช่วยให้อนาคตของผ้าไทยที่จังหวัดชัยภูมิยังคงมีชีวิตยืนยาวสืบทอดสู่ลูกหลานรุ่นต่อรุ่น ไปอีกยาวนาน สมดั่งที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านได้ทรงทุ่มเทอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา และพละกำลัง กว่า ๖๐ ปีในการที่จะช่วยต่ออายุให้ผ้าไทยในประเทศนี้ดำรงอยู่ต่อไป ให้เกิดความมั่นใจได้ว่าสิ่งเหล่านี้จะยังคงเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราได้ถ่ายทอดไว้ จะไม่สูญหาย ผ้าไทยของชัยภูมิจะยังคงดำรงคงอยู่ คู่กับโลกตลอดไป ที่สำคัญคือการสวมใส่ผ้าไทยจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจในครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่นของเรา ถ้าครอบครัวไหนที่สามารถปลูกฝ้าย และทอผ้าเองได้ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิมีผู้ประกอบการ/กลุ่มสตรีที่ทอผ้ารวมกันมากกว่า ๒,๐๐๐ กลุ่ม ทั้งรายเล็กรายใหญ่ ทำให้เกิดรายได้จุนเจือครอบครัว และหากมีประชากร ๓๕ ล้านคนที่หันมาสวมใส่ผ้าไทย จะก่อให้เกิดรายได้คิดง่าย ๆ จากถ้าซื้อเพิ่มอีก ๑ ชุด ต้องซื้อผ้าเพิ่มอีกคนละ ๑ เมตร ก็จะเป็น ๓๕ ล้านเมตร ถ้าคิดมูลค่าเป็นเมตรละ ๓๐๐ บาท จะได้เงินมากกว่า ๑๐๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็จะหมุนเวียนอยู่ในชุมชนในท้องถิ่นอยู่ในครอบครัวทั้งคนปลูกฝ้ายปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทั้งคนที่ทอผ้า รวมถึงคนที่มีอาชีพเย็บจักรถักเสื้อผ้าประดิษฐ์ประดอยเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ กระจายไปยังกลุ่มค้าขายอื่น ๆ คุณประโยชน์เหล่านี้มันมีค่าไม่ใช่แค่ตัวเลขที่เป็นตัวเงิน แต่มีความสำคัญที่สุด คือ คุณค่าทางจิตใจที่ได้สืบสาน รักษา ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ


นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ฝากอีกหนึ่งเรื่อง ในปัจจุบันปัญหาความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่เราทุกคนต้องช่วยกัน เริ่มต้นที่ตัวเราเอง คือ การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาใช้เป็นแนวปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้รวมกันบูรณาการทุกหน่วยงานภาคส่วนในการช่วยเหลือ ช่วยกันทำให้ทุกบ้านทุกครัวเรือน และทุกคนของจังหวัดชัยภูมิ ปลูกพืชผักสวนครัว ผักที่กินได้ หรือจะเลี้ยงเป็ด/เลี้ยงไก่/เลี้ยงกบ/เลี้ยงปลา เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเองในด้านอาหาร มีการบริหารจัดการในที่ดินของตนเองในรูปแบบโคกหนองนาโมเดล รวมถึงการบริหารจัดการขยะ ขอให้เพิ่มถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อไม่ให้ขยะของเราเป็นมลพิษช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง

ขอบคุณภาพ/ข่าว : สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

๓๘๓. สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๓ รายได้สนันสนุนสาธารณประโยชน์ในพื้นที่

วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๓ นายธีระ พรชูตรง นายอำเภอบางปะกง เป็นประธานพิธีเปิดงานวันสตรีสากล ประจำปี ๒๕๖๓ จัดโดยคณะกรรมการพัฒนาสตรี ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย นางสุรวดี เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดฉะเชิงเทรา นางอนันตยา พรชูตรง นายกกิ่งกาชาดอำเภอบางปะกง นางสาวกุญพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทคซิตี้ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มสตรีอำเภอบางปะกง เข้าร่วมกิจกรรมกว่า ๑,๐๐๐ คน ณ บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

นางบุญรอด จอกแก้ว ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอบางปะกง กล่าวว่า การจัดงาน "วันสตรีสากล" เพื่อร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทย ศิลปะอันล้ำค่าของชาติ ให้ดำรงคงอยู่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจ ของคนไทยรวมถึงจัดหารายได้สำหรับการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอบางปะกง เพื่อช่วยเหลือ สตรี เด็ก เยาวชนและผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่อำเภอบางปะกง ที่สำคัญ รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้เกิดกระแสความนิยม การแต่งกายผ้าไทย แก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยเน้นในกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ ให้ใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นการสืบสานอนุรักษ์ ผ้าท้องถิ่นไทยให้คงคู่ อยู่ในแผ่นดินสืบไป ตลอดจนส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่นอีกด้วยที่บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา


ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ

๓๘๒. สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ฯ องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ชวนกรรมการและสมาชิกตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า แก้วิกฤตขาดแคลนหน้ากากอนามัย

วันนี้ (๙ มีนาคม ๒๕๖๓) เวลา ๑๐.๐๐ น. นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ นายกสมาคมสมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดการจัดอบรมผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๖๓ และได้รับเกียรติจาก นางสาวพูนทรัพย์ พิทักษ์นคร เป็นวิทยากรให้ความรู้ในการตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า มีกรรมการ และสมาชิก จำนวน ๓๐ คน ให้ความสนใจร่วมเรียนรู้การตัดเย็บหน้ากากอนามัยที่ผลิตด้วยผ้าในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ในเบื้องต้นเพื่อให้กรรมการและสมาชิกนำความรู้ การตัดเย็บหน้ากากอนามัยผ้า ไปถ่ายทอดให้ความรู้การตัดเย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้าแก่สมาชิกในครอบครัว และบุคคลใกล้ชิด เพื่อแก้วิกฤตการขาดแคลนหน้ากากอนามัยอีกทางหนึ่ง ณ สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กรุงเทพฯ

นางสาวเบญจมาศ รุจิรวงศ์ กล่าวว่าจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID – ๑๙ รัฐบาลประกาศ เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ( COVID-๑๙ ) สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ฯซึ่ง เป็นองค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรมการเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า ให้กับกรรมการและสมาชิกของสมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทย ฯ เพื่อให้สามารถตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้าไว้ใช้เองได้ ที่บ้าน ทั้งนี้ การเลือกใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า มีข้อดี สามารถนำมาซัก นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ลดการใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง เพราะหลังจากการใช้แล้ว จะกลายเป็นขยะติดเชื้อ จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน ใช้หน้ากากอนามัยป้องกันการสัมผัสกับไวรัส ปกป้องฝุ่นละอองและฝุ่นควันได้ในระดับหนึ่ง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์


๓๘๑. สมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีและภาคีเครือข่ายสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ” มอบถุงผ้า หน้ากากอนามัย แบ่งปันความห่วงใย ในโอกาสวันสตรีสากลประจำปี ๒๕๖๓

วันนี้ (๖ มีนาคม ๒๕๖๓) เวลา ๐๙.๐๐ น. นางนวลจันทร์ แย้มศรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันสตรีสากล ปี ๒๕๖๓ จัดโดยสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา องค์กรสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และภาคีเครือข่ายสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์พลังสตรีศรีอยุธยาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยเหลือสังคม”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สตรีได้มีโอกาสแสดงออก และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ในการรักษาสิ่งแวดล้อม ร่วมถึงกิจกรรมการกุศลและสาธารณประโยชน์ภายในชุมชน โดย นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ ประธานสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับและภาคีเครือข่ายสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนับสนุนมอบถุงผ้าแก่โรงพยาบาลทุกอำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๙,๙๙๙ ใบ และ มอบ หน้ากากอนามัย ป้องกันไวรัสโควีท ๑๙ จำนวน ๗,๐๐๐ ชิ้น ให้กับ นางนวลจันทร์ แน้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ ห้องประชุมอาคารอยุธยาพาวิเลียนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางพรทิพย์ ตั้งกีรติ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ “COVID-19″ (Coronavirus disease that was discovered in ๒๐๑๙) ก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมไทย โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้ สตรีทุกอำเภอ รวมถึงผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ การสนับสนุนมอบถุงผ้าแก่โรงพยาบาลทุกอำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน ๙,๙๙๙ ใบ และ มอบ หน้ากากอนามัย ป้องกันไวรัสโควีท ๑๙ จำนวน ๗,๐๐๐ ชิ้น ผ่าน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อ ส่งมอบต่อให้ประธานสตรีทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสมาชิก เพื่อเป็นกำลังใจ จากสมาคมกองทุนสวัสดิการเพื่อสตรีและภาคีเครือข่ายสตรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการแสดงพลังสตรีศรีอยุธยาร่วมแรงร่วมใจ แบ่งปัน ความรัก ความห่วงใย เพื่อผ่านพ้นวิกฤต ไปด้วยกัน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ